วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ลักษณะพืช พืชล้มลุก อายุหลายปี มีเหง้า ลำต้นตั้งตรง สูง 2 เมตร ออกเป็นกอ ใบเกลี้ยง รูปยาวแคบ กว้าง 5-20 มม. ยาวได้ถึง 1 เมตร มีกลิ่นหอม ตรงรอยต่อระหว่างใบกับกาบ มีแผ่นรูปไข่ปลายตัดยื่นออกมา ยาวประมาณ 2 มม. มีขนกาบหุ้มติดทน กาบล่างสุดเกยซ้อนกัน เมื่อแห้งจะม้วนขึ้น ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ยาวได้ถึง 80 ซม. มีใบประดับ ลักษณะคล้ายกาบ ยาวประมาณ 25 มม. รองรับอยู่ ช่อดอกแยกเป็นหลายแขนง แต่ละแขนงมีช่อย่อย 4-5 ช่อ ผลแห้งไม่แตก
ตะไคร้หอมมีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายกับตะไคร้กอ ต่างกันที่กลิ่น ต้นและใบยาวกว่าตะไคร้กอมาก แผ่นใบกว้างยาวและนิ่มกว่าเล็กน้อย การปลูก ใช้หน่อหรือเหง้าชอบขึ้นในดินร่วนซุย น้ำไม่ขัง ชอบแดดมาก ส่วนที่ใช้เป็นยา
ใบและกาบใบ สรรพคุณยาไทย ต้นแก้ริดสีดวงในปาก (คือปากแตกระแหง เป็นแผลในปาก) สตรีมีครรภ์รับประทาน ทำให้แท้ง บีบรัดมดลูก ขับลมในลำใส้ แก้แน่น
ตะไคร้หอมได้ถูกนำมาใช้ไล่แมลง อย่างแพร่หลายนานมาแล้ว โดยละลายน้ำมันตะไคร้หอม 7 ส่วน ผสมในแอลกอฮอล์(70%) 93 ส่วน ฉีดพ่นหรือตำใบสดหมักในแอลกอฮอล์ใน อัตราส่วน 1:1 ทาตรงขอบประตูที่ปิดเปิดเสมอ หรือชุบสำลีแขวนเอาไว้หน้าประตูเข้าออก หรือใช้ใบตะไคร้หอมมัดแล้วทุบให้ช้ำวางใว้ตามมุมห้องหรือใต้เตียง
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ใบและกาบใบมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมี Geraniol และ Citronellal เป็นส่วนประกอบสำคัญ มีฤทธิ์ในการไล่แมลง โดยเฉพาะ กันยุง จากการวิจัยพบว่า ทั้งต้นใช้กันยุงได้ ปัจจุบันจึงมีผู้สะกัด เอาสมุนไพรชนิดนี้มาทำเป็น โลชั่นกันยุง บ้าง น้ำมันหอมระเหย กลิ่นตะไคร้ ไล่ยุง ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ตะไคร้หอมที่นำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยมี 2 ชนิดคือ Lenabuta เป็นพันธุ์ที่ได้มาจากประเทศลังกา และอีกชนิดคือ Mahapengiri เป็นพันธุ์ที่ได้จากประเทศอินโดนีเซีย บริเวณเกาะชวา ปัจจุบันมีการปลูกแพร่หลายเข้าไปในหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศในอเมริกาใต้ เป็นต้น ตะไคร้หอมที่ได้จากชวาจะมีสาร geraniol, citronellal มี aldehydeและ total alcohol ไม่น้อยว่า 35 % เมื่อวิเคราะห์ด้วยวิธี acetylation เป็นผลให้น้ำมันที่ได้จากตะไคร้หอมชนิดชวามีคุณภาพดีกว่าชนิดลังกา ในประเทศไทยมีการนำเข้ามาปลูกนานแล้วผู้ที่นำเข้ามาคือคุณหลวงมิตรธรรมพิทักษ์โดยนำเข้ามาจาก อินเดียและนำไปปลูกที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีเป็นที่แรก ปัจจุบันมีการนำไปปลูกทั่วประเทศ
วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ไม้มงคล
ราศีธนู
16 ธ.ค.–15 ม.ค.
อุปนิสัยของชาวราศีธนู เป็นผู้ที่มีเชื่อมั่นในตัวเองสูง ดื้อรั้น มีพลังแห่งความแข็งแกร่ง มีความสามารถและมองการณ์ไกล จึงทำให้สร้างฐานะได้ด้วยตัวเอง ทุกย่างก้าวในชีวิตจะมั่นใจว่าต้องได้มาด้วยชัยชนะ ชอบที่จะมีชื่อเสียง เกียรติยศ มีโลกทัศน์ที่ดี และมองโลกในแง่ดี
ไม้มงคล ไม้ที่ช่วยเสริมมงคลชีวิตให้ชาวราศีธนูคือ บัว บ้านใดปลูกบัว จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์ เบิกบาน ทำให้คนในครอบครัวมีความห่วงใยผูกพันธ์กัน เฟิร์นข้าหลวง จะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก แก้ว ช่วยกระจายอุปสรรคปัญหาออกไปจากชีวิต นอกจากนี้ยังมี พลูด่าง และ โป๊ยเซียน จะช่วยเสริมโชคลาภแก่ชาวราศีธนูอีกด้วย
สูตรอาหาร
สูตรน้ำสลัด
เหมาะกับคนที่มีไขมันสูง ทำได้ง่ายๆ อร่อยด้วย
เครื่องปรุงมี
ซีอิ๊วขาว
น้ำผึ้งรวง
ฟักทองนึ่ง
งาดำป่น
พริกไทยป่น
น้ำมะนาว
น้ำมันข้าวโพด(นิดหน่อย)
นมข้น(นิดหน่อย)
วิธีทำ ดี แล้วชิมรสตามต้องการ เก็บไว้ในตู้เย็น ทานกับผักต่างๆ ได้ 2-3 วัน ข้อควรระวังน้ำมะนาวอย่าใส่มากนัก ชิมดูก่อฟักทองนึ่งใช้แต่เนื้อ นำเครื่องปรุงทั้งหมดรวมกัน ปั่นด้วยเครื่องปั่นประมาณ 3 นาที เข้ากันนแล้วค่อยเติม และถ้าไม่มีน้ำมันข้าวโพด จะใช้น้ำมันองุ่นก็ได้ แต่ไม่ควรใช้มากเพราะเป็นน้ำสลัดเพื่อลดไขมัน"